พันธุ์ข้าวโพดรุ่นฝน
การปลูกข้าวโพดรุ่นฝน ถือเป็นฤดูกาลหลักของประเทศไทย โดยการปลูกข้าวโพดรุ่นฝน จะมีการปลูกแยกตามลักษณะทางภูมิศาสตร์ แบ่งเป็น 3 พื้นที่ คือ ที่ลุ่ม ที่ราบ ที่เนินหรือที่ดอน พันธุ์ข้าวโพดที่เหมาะสมกับแต่ละสภาพพื้นที่
1. พื้นที่ลุ่ม ที่ดินริมแม่น้ำ ริมหนอง คลอง บึง และอ่างเก็บน้ำ จะมีน้ำท่วมขังในฤดูฝน เกษตรกรต้องเลือกพันธุ์ที่มีอายุการเก็บเกี่ยวสั้น ไม่เกิน 100 วัน เพื่อให้เก็บเกี่ยวได้ก่อนน้ำจะขึ้นเมื่อถึงกลางฤดูฝน ดังนั้น เราไม่ต้องมัวไปเลือกพันธุ์อายุยาว ยืนต้นนานๆ ให้เสียเวลา พื้นที่นี้เราจะพบได้ใน ภาคเหนือ เช่น จังหวัดลำปาง จังหวัดพะเยา จังหวัดเชียงราย
2. พื้นที่ราบ หรือที่ไร่ พื้นที่ดินมีความสม่ำเสมอ เป็นพื้นที่หลักของการปลูกข้าวโพด สามารถปลูกได้ทั้ง ต้นฤดูฝน และปลายฤดูฝน ส่วนมากเป็นแปลงปลูกขนาดใหญ่ มีการใช้เครื่องมือเครื่องจักรตั้งแต่ปลูก ทำรุ่น ใส่ปุ๋ย จนถึงเก็บเกี่ยว เกษตรกรควรเลือกใช้พันธุ์ที่ให้ผลผลิตสูง ทนต่อการปลูกถี่ 11,000 – 15,000 ต้นต่อไร่ พันธุ์ข้าวโพดมีการตอบสนองต่อการใส่ปุ๋ยมาก อายุเก็บเกี่ยวประมาณ 100 – 120 วัน สามารถเก็บเกี่ยวได้ทั้งแบบเก็บสด และแบบกึ่งสดกึ่งแห้ง และสามารถเก็บเกี่ยวได้ด้วยรถเก็บเกี่ยวแล้วเมล็ดไม่แตก พื้นที่ปลูกส่วนใหญ่จะพบใน จังหวัดสระบุรี จังหวัดลพบุรี จังหวัดนครสวรรค์ จังหวัดเพชรบูรณ์ และจังหวัดนครราชสีมา เป็นต้น
3. พื้นที่เนินหรือที่ดอน คือสภาพแปลงที่มีความลาดเท ในพื้นที่นี้การระบาดของโรคจะมีมาก เช่น โรคใบไหม้แผลใหญ่ โรครากเน่าและลำต้นเน่า เกษตรกรควรเลือกใช้พันธุ์ที่มีความต้านทานที่ดี มีระบบรากและลำต้นที่แข็งแรง อายุเก็บเกี่ยวประมาณ 110 – 150 วัน หรือในบางพื้นที่ต้องสามารถยืนต้นได้นานถึง 180 วัน ต้นจะต้องไม่หักล้ม ฝักไม่ขึ้นรา เพื่อให้ฝนหมดไปแล้วจึงเข้าไปเก็บเกี่ยวได้ และน้ำหนักมีการสูญหายน้อยเมื่อมีการเก็บเข้ายุ้งฉางเพื่อรอเวลาขาย พื้นที่ปลูกพบในจังหวัดเลย จังหวัดเชียงราย จังหวัดเชียงใหม่ จังหวัดพะเยา จังหวัดลำปาง จังหวัดตาก จังหวัดแพร่ และจังหวัดอุตรดิตถ์
งานวิจัยพันธุ์ข้าวโพดและประกันคุณภาพ CPP